หลังจากที่อยากได้หูฟัง Over Ear ดี ๆ จริง ๆ มานาน ผ่านโจทย์สุดโหดที่ต้องคำนึงทั้งเรื่องคุณภาพเสียง, ราคาที่ต้องจ่าย, ระยะเวลาที่มันจะอยู่กับเราก่อนที่จะต้องหาอันใหม่, สามารถใช้สายก็ได้ ไร้สายก็ได้, ดีไซน์ต้องสวย, มีปุ่มน้อยที่สุดเท่าที่จะน้อยได้, ตัดเสียงรบกวนได้ดี และในที่สุด เราก็ได้ผู้ชนะเลิศมาแล้วครับ
พี่คนนั้นก็คือ Bose รุ่น Noise Cancelling 700 หรือที่เรียกว่า Bose NC 700 นั่นเอง!
ในบทความรีวิวนี้ ผมจะพาท่านผู้อ่านไปดูตั้งแต่เริ่มแกะกล่อง, การเชื่อมต่อ, การใช้งาน วิเคราะห์คุณภาพเสียง หูฟังไร้สาย Bose รุ่น Noise Cancelling 700 กันครับ
แกะกล่อง Bose NC 700
หูฟังไร้สาย Bose NC 700 มาในกล่องกระดาษแข็งแรงมาก สีดำ ขนาดไล่เลี่ยกับนิตยสาร
เมื่อเปิดกล่องออกมา หากไม่พบหูฟัง Bose ของคุณไม่ต้องตกใจไป! หูฟังไร้สายตัวโปรดของคุณอยูในเคสหูฟังสุดแข็งแรงพึ่งพาได้นี้แล้ว นั่นคือสิ่งที่ชอบอีกอย่างหนึ่ง ที่เราไม่ต้องไปหาซื้อเคสหูฟังอีกที
เปิดเคสออกมา หูฟัง Over Ear ยี่ห้อ Bose ของคุณจะอยู่ในนั้น
และนี่คือของทั้งหมดที่คุณจะได้รับ
หูฟังไร้สาย Bose NC 700
สายหูฟัง 2.5 mm to 3.5 mm
สายชาร์จ USB แบบ Type C
เคสหูฟัง
คู่มือการใช้งาน (มีแทบทุกภาษา รวมภาษาไทยด้วย)
สำหรับคนที่อยากใช้หูฟังนี้แบบเสียบสายบ้างในบางโอกาส ขอบอกว่าสายที่ให้มาค่อนข้างสั้น คุณอาจจะต้องไปหาสาย audio 2.5 mm to 3.5 mm คุณภาพดีมาใช้งานจริงอีกที (ผมหาเจอใน Shopee เช่นเดิม)
เคยเป็นไหมครับ หยิบหูฟังมาแล้วไม่รู้ว่าข้างไหนซ้าย ข้างไหนขวา หาอยู่นั่นแหละ นี่เลย Bose NC 700 เขาพิมพ์มาให้ ตัวใหญ่ ๆ เต็ม ๆ ไม่ต้องเฟอะฟะกันอีกต่อไป
ปุ่มควบคุมและช่องต่อสายของ หูฟัง Bose NC 700
มีทั้งหมดเพียง 3 ปุ่ม และอีก 2 รู ได้แก่
Power/Bluetooth
Voice Assistant
Noise Control
USB C
2.5 mm
ในการใช้งานจริง เราจะยุ่งกับปุ่มเหล่านี้ไม่มาก แต่จะเป็นการแตะและปัดที่โลโก้ BOSE ที่หูฟังด้านขวามือแทน ต้องขอชมว่าออกแบบมาได้ชาญฉลาด และคำนึงถึงความสะดวกของผู้ใช้งานจริง ๆ
สำหรับการใช้งานของแต่ละปุ่ม ติดตามได้ในหัวข้อถัดไปครับ
การเชื่อมต่อหูฟังไร้สาย Bose NC 700 เข้ากับมือถือ
1. กดปุ่ม Power/Bluetooth บนตัวหูฟัง
หากเป็นการเปิดครั้งแรกเลย หูฟังของเราจะอยู่ในโหมดเชื่อมต่อ หรือ pairing mode ทันที สังเกตุว่าไฟสีน้ำเงินจะกระพริบช้า ๆ และเมื่อหยิบมือถือมาดู จะพบเจ้าหูฟังรอให้เชื่อมต่ออยู่แบบนี้
2. แตะที่ปุ่ม Connect ในหน้าจอมือถือ
แตะที่ปุ่ม Connect สีน้ำเงินตามหน้าจอด้านบน ก็เป็นการเสร็จเรียบร้อยแล้วครับ
หากตอนที่เปิดขึ้นมาครั้งแรก หูฟังของคุณไม่อยู่ในโหมดเชื่อมต่อหรือ pairing mode แต่กลับเข้าไปอยู่ในโหมดใช้งานเลย (สังเกตุจากไฟสีน้ำเงินกระพริบเร็ว ๆ ราว 7 ครั้ง และดับไป) ให้กดปุ่ม Power/Bluetooth ค้างไว้ซัก 2 วินาที จนเห็นว่าไฟสีน้ำเงินกระพริบช้า ๆ เนิบ ๆ ให้หยิบมือถือมาดู หากเห็นหูฟัง Bose NC 700 รออยู่ ให้ทำการเชื่อมต่อดังคำแนะนำด้านบนต่อได้เลย
ใช้งาน Bose NC 700 อย่างเต็มศักยภาพด้วย แอพ Bose Music
หากคุณตามบทความมาถึงขั้นตอนนี้ หูฟังของคุณพร้อมให้ใช้งานแล้ว แต่ถ้าคุณอยากรู้จักหูฟัง Bose ของคุณให้ดีขึ้น และใช้งานมันอย่างเต็มศักยภาพ ขอแนะนำให้โหลดแอพ Bose Music ลงในมือถือ ตามลิ๊งค์ข้างล่างนี้ไปได้เลยครับ
ลิงค์ดาวน์โหลด Bose Music สำหรับคนใช้ iPhone
ลิงค์ดาวน์โหลด Bose Music สำหรับคนใช้ Android
หรือศึกษาเกี่ยวกับแอพ Bose Music เพิ่มเติมได้ที่นี่
การควบคุมหูฟังไร้สาย Bose NC 700
เมื่อเปิดแอพ Bose Music ขึ้นมาเป็นครั้งแรก มันจะพาเราไปรู้จักกับการควบคุมหูฟัง Bose NC 700 ของเราดังนี้
การเล่นและหยุดเพลง
แตะสองครั้งที่หูฟังด้านขวา บริเวณโลโก้ Bose
การเพิ่มและลดความดังของเสียง
ปัดที่โลโก้ขึ้น เป็นการเพิ่มความดังของเสียง
ปัดที่โลโก้ลง เป็นการลดความดังของเสียง
การเล่นเพลงถัดไป
ปัดที่โลโก้ไปข้างหน้า
การเล่นเพลงก่อนหน้า
ปัดที่โลโก้ไปข้างหลัง
อยากทราบว่าแบตเหลืออยู่เท่าไหร่
แตะที่โลโก้ค้างเอาไว้
หูฟังจะบอกปริมาณแบตที่เหลือเป็นจำนวนชั่วโมงที่ยังใช้งานได้ (ล้ำ! เพราะมันเป็นประโยชน์กับผู้ใช้มากกว่าการบอกเป็นเปอร์เซ็นต์)
หูฟังจะพูดเป็นภาษาอังกฤษ
การรับสาย/ตัดสายสำหรับหูฟัง Bose NC 700
การรับสาย
แตะสองครั้งที่โลโก้ (เหมือนกับการเล่นหรือหยุดเพลง)
การตัดสาย
แตะที่โลโก้ค้างไว้ 1 วินาที
การ mute เสียงระหว่างพูดสาย
หากต้องการปิดไมค์ของคุณ เพื่อไม่ให้คู่สนทนาได้ยิน
กดที่ปุ่ม Voice Assistant 1 ครั้ง
การตัดเสียงรบกวนของหูฟัง Bose NC 700
หูฟัง Bose NC 700 รุ่นนี้ มีระดับความโหดในการตัดเสียงรบกวนตั้งแต่ระดับ 0 ถึง 10, 0 คือไม่ได้ทำการตัดเสียงเลย และ 10 คือมันจะตัดเสียงรบกวนมากที่สุดเท่าที่ทำได้ (เงียบเหมือนอยู่ในห้องอัด...)
ในการใช้งาน คุณสามารถเซ็ตระดับการตัดเสียงรบกวนที่ใช้บ่อย ๆ ได้ 3 ระดับ และส่งให้หูฟังจำเอาไว้
โดยแรกเริ่ม มันจะตั้งเอาไว้ที่ระดับ 0, 5, และ 10
เมื่อคุณกดที่ปุ่ม Noise Control (ปุ่มเดียวด้านซ้ายมือ) มันจะวนระดับการตัดเสียงไปเรื่อย ๆ เช่น 10 > 0 > 5 > 10 คุณจะบอกได้ จากเสียงรบกวนที่มันอนุญาตให้เข้ามา เมื่อกดปุ่มนี้วนไปเรื่อย ๆ
ข้อแนะนำและคำเตือน
ที่ระดับ 10 โลกจะเงียบมาก ไม่แนะนำให้ใช้เวลาอยู่ข้างนอกอย่างเด็ดขาด เนื่องจากคุณจะไม่ได้ยินเสียงรถ เสียงอันตรายที่กำลังจะเข้ามา เสียงร้องเตือนให้คุณหลบ เสียงคนร้องเรียกขอความช่วยเหลือ ไม่มีเสียงอะไรเข้ามาได้ ดังนั้น มันอาจจะเหมาะกับการใช้ในออฟฟิศ หรือเมื่อคุณต้องการสมาธิมาก ๆ เท่านั้น
โหมดสนทนา
ในระหว่างการฟังเพลง หากมีใครซักคนส่งสัญญาณบุ้ยใบ้ว่าต้องการพูดกับคุณ และคุณรู้ว่ามันจะเป็นการสนทนาเพียงสั้น ๆ จึงเลือกที่จะไม่เอาหูฟังออกจากหัว คุณสามารถกดที่ปุ่ม Noise Control ค้างเอาไว้เพื่อเข้าสู่โหมดสนทนา
ในโหมดนี้ เพลงจะหยุดลง และระดับการตัดเสียงจะถูกลดลงไปอยู่ที่ 0 เพื่อให้คุณได้ยินคู่สนทนา เมื่อเสร็จธุระแล้ว กดค้างไว้อีกครั้ง เพลงจะกลับมาเล่นต่อและการตัดเสียงรบกวนจะกลับมาทำงานอยู่ที่ระดับเดิม
การเรียกใช้ Google Assistant / Amazon Alexa
จุดขายอีกอย่างของหูฟังรุ่นนี้คือ เราสามารถเรียกใช้ Google Assistant ได้อย่างง่ายดาย เพียงกดที่ปุ่ม Voice Assistant 1 ครั้ง Google ก็จะรีบมารอฟัง ว่าคุณต้องการอะไร
คุณภาพเสียงของหูฟัง Bose NC 700
เช่นเดียวกับหูฟังโดยมากในตลาด เมื่อเราฟังมันครั้งแรกที่แกะกล่อง เสียงจะทุเรศมากจนน่าตกใจว่า เฮ้ย โดนย้อมแมวรึเปล่า ตอนที่ลองฟังที่ร้านไม่เห็นเป็นแบบนี้ ซื้อมาแพงนะเว้ย!
ยังไม่ต้องแตกตื่นไป หูฟัง Bose ก็ต้องการการ burn เช่นเดียวกับหูฟังยี่ห้ออื่น ๆ เช่นกัน
การ burn หูฟัง Bose NC 700
เนื่องจากการ burn ใช้เวลานาน ผมจึงเลือกที่จะ Power off เจ้าหูฟัง และต่อสาย 2.5 mm to 3.5 mm เข้ากับเครื่องเสียง เปิดเพลง Drum and Bass ให้มันฟัง 24 ชั่วโมง และเราก็จะได้หูฟังเสียงเทพตามสไตล์ Bose มาฟังเพลงกันเสียที
เนื้อเสียงของหูฟัง Bose NC 700
หากคุณชอบได้ยินรายละเอียดของเสียง สนุกกับการค้นพบเสียงเล็ก ๆ น้อย ๆ ที่ Sound Engineer บรรจงใส่เอาไว้ หูฟัง Bose รุ่นนี้ตอบโจทย์ได้ดีน่าจะที่สุดในระดับราคาเดียวกันเลยทีเดียว ให้เวทีเสียงกว้างพอดี ๆ ไม่มากจนรู้สึกว่าเป็นเวทีเสียงหลอก ๆ เหมือนใช้เอฟเฟกต์สังเคราะห์เข้ามาช่วย
ย่านเสียงต่ำ - ให้เสียงเบสชัด ใหญ่กำลังดี ไม่แตกพร่า ไม่คลุมเครือ นุ่ม แต่ไม่กระแทกมากเท่ารุ่นอื่น
ย่านเสียงกลาง - ให้เสียงกระจ่าง เปิดเผย ไม่ล้ำไม่ย่านอื่น เสียงรายละเอียดชัดเจน
ย่านเสียงสูง - ให้เสียงกรุ๊งกริ๊งได้น่าทึ่งตามสไตล์ Bose ที่เปิดเผยรายละเอียดเสียงที่ซ่อนอยู่ ที่ฟังจากหูฟังราคาเดียวกันกี่รุ่น ๆ ก็จะไม่ได้ยิน
สรุปการรีวิวหูฟัง Bose NC 700
หูฟัง Bose NC 700 ใช้งานง่าย คล่องตัว ควบคุมด้วยแอพผ่านมือถือได้ การตัดเสียงรบกวนทำได้ดีจนน่ากลัว ให้เสียงกระจ่างชัด สุภาพ ไม่รุกรานตามสไตล์ Bose ใช้งานร่วมกับ Google Assistant ได้เป็นอย่างดี
แม้ราคาจะดูสูงอยู่บ้าง แต่เมื่อเทียบกับรุ่นอื่น ๆ ในระดับราคาเดียวกันแล้วต้องยอมรับว่าคุ้มทุกบาท ตั้งแต่การใช้งานที่จะอยู่บนหัวเราหลายชั่วโมงต่อวัน และคุณภาพเสียงที่ให้อภัยไม่ได้ แม้ Bose NC 700 จะไม่มีดีไซน์สวยเว่อร์ขนาดสาวเหลียวหลัง เหมือนยี่ห้อใหม่ ๆ ที่เข้ามาทำตลาด แต่รับประกันว่า เมื่อพิจารณาคุณค่าโดยรวมทั้งหมดแล้ว ไม่ผิดหวังแน่นนอนครับ
Be a REAL MAN