top of page
  • รูปภาพนักเขียนREAL MAN

ฮอร์โมนเพศชาย (เทสโทสเตอโรน): ทั้งหมดที่คุณต้องรู้

อัปเดตเมื่อ 12 ก.ย. 2564



มีผู้ชายไม่น้อยที่คิดหาวิธีลัดในการเพิ่มความแมนหรือความเป็นชายให้ตัวเอง เช่นการทานอาหารเสริมที่จะเข้าไปเพิ่มฮอร์โมนเพศชายหรือที่เรียกกันว่าเทสโทสเตอโรนโดยตรง หรือแม้กระทั่งยอมเจ็บตัวไปฉีดฮอร์โมนเพศชายที่ว่านี้

บทความนี้จะชวนคุณสุภาพบุรุษทุกท่านมาทำความเข้าใจเกี่ยวกับฮอร์โมนเพศชาย บทบาทความสำคัญ ระดับฮอร์โมนที่เหมาะสม พร้อมไขปริศนาที่ว่าฮอร์โมนเพศชายสามารถช่วยให้ผู้ชายอย่างเราแมนขึ้นได้จริงหรือไม่


ไปติดตามกันครับ

ฮอร์โมนเพศชาย (เทสโทสเตอโรน): ทั้งหมดที่คุณต้องรู้
ฮอร์โมนเพศชาย (เทสโทสเตอโรน): ทั้งหมดที่คุณต้องรู้

ฮอร์โมนเพศชาย คืออะไร?

เทสโทสเตอโรน (Testosterone) คือชื่อทางวิทยาศาสตร์ของฮอร์โมนหลักที่มีอยู่ในร่างกายของมนุษย์เพศชาย ด้วยความที่มันเป็นฮอร์โมนเพศตัวหลักที่พบในเพศชาย มีผลโดยตรงกับการแตกเนื้อหนุ่มของเด็กผู้ชายที่จะเข้าสู่วัยรุ่น เช่น เริ่มมีมัดกล้าม มีขนดกขึ้น เสียงทุ้มลึก และมีผลทำให้อารมณ์สงบนิ่งมากขึ้น


อย่างไรก็ตาม นักวิทยาศาตร์พบว่าเพศหญิงก็มีเทสโทสเตอโรนอยู่ในร่างกายด้วยเช่นกัน ในปริมาณเล็กน้อยเพื่อให้ร่างกายสามารถทำงานได้อย่างปกติ


ความเข้าใจผิดเกี่ยวกับฮอร์โมนเพศชาย

  • ยิ่งเยอะ ยิ่งดี จะได้แมน - หากในร่างกายเรามีเทสโทสเตอโรนเยอะเกินไป ร่างกายจะรักษาสมดุลโดยการเปลี่ยนฮอร์โมนเพศชายหรือเทสโทสเตอโรนนี้ให้กลายเป็นฮอร์โมนเพศหญิงหรือที่รู้จักกันว่าเอสโตรเจน และแทนที่จะแมน คุณจะเริ่มเป็นสาวแทน

  • ยิ่งเยอะ ยิ่งรุนแรงก้าวร้าว - เรื่องนี้ยังคงจัดเป็นความเชื่ออยู่ ยังไม่มีผลการวิจัยที่แสดงความสัมพันธ์ของฮอร์โมนเพศชายและความก้าวร้าวอย่างชัดเจน

ไม่มีอะไรที่มากไปหรือน้อยไปแล้วจะส่งผลดี ฮอร์โมนเพศชายก็เช่นกัน ตามไปดูผลกระทบกันครับ


หากมีฮอร์โมนเพศชายต่ำเกินไปจะเป็นอย่างไร?

สำหรับในเพศชาย

  • หากมีระดับฮอร์โมนเพศชายต่ำกว่าปกติในช่วงแตกเนื้อหนุ่ม อาจส่งผลกับการพัฒนาของอวัยวะเพศและถุงอัณฑะ ไม่มีเสียงทุ้มลึก ขนตามตัวหรือหนวดเคราเบาบาง

  • ส่งผลกับขนาดและความแข็งแรงของกล้ามเนื้อ

  • ส่งผลกับการพัฒนากระดูกและความแข็งแรงของกระดูก

  • ความรู้สึกทางเพศลดลงแบบไม่ทราบสาเหตุ

  • จำนวนตัวอสุจิลดลง

  • อารมณ์แปรปรวน ไม่มั่นคง

  • เครียดง่ายขึ้น

และหากเพศหญิงมีฮอร์โมนเพศชายต่ำเกินไป จะเกิดผลกระทบดังนี้ เช่น

  • ส่งผลกับการทำงานของรังไข่

  • ส่งผลกับความแข็งแรงของกระดูก

  • ความรู้สึกทางเพศลดลง

จะสังเกตุอย่างไรว่ามีฮอร์โมนเพศชายต่ำกว่าปกติ?

ลองสังเกตุลักษณะอาการเหล่านี้

  • อวัยวะเพศไม่แข็งตัวเหมือนเคย

  • ไม่มีเรี่ยวแรง รู้สึกเหมือนพักผ่อนได้ไม่เต็มที่เสียที

  • ความรู้สึกทางเพศถดถอยแบบไม่ทราบสาเหตุ

  • รู้สึกเครียดง่าย และไม่มั่นใจกับทุกเรื่อง

  • อารมณ์แกว่งไปมาผิดปกติ

หากมีฮอร์โมนเพศชายมากเกินไปจะเป็นอย่างไร?

ในกรณีคุณผู้ชาย

  • อัณฑะจะทำงานผิดปกติ ส่งผลให้จำนวนอสุจิน้อยลง (น่าแปลกใจไหมครับ)

  • ทำลายกล้ามเนื้อหัวใจ ส่งผลให้เป็นโรคหัวใจได้

  • ต่อมลูกหมากโต ปัสสาวะลำบาก

  • เพิ่มความเสี่ยงโรคเกี่ยวกับตับ

  • สิวขึ้น

  • ของเหลวในร่างกายเดินทางยากขึ้น อาจส่งผลให้ขาและเท้าบวม

  • ความดันโลหิตสูงขึ้น

  • ระดับคลอเรสเตอรอลสูงขึ้น

  • นอนไม่หลับ

  • ปวดหัว

  • อารมณ์แปรปรวน หงุดหงิดง่าย การตัดสินใจบกพร่อง ลุ่มหลง

อาการของผู้หญิงที่มีเทสโทสเตอโรนมากเกินไป ได้แก่

  • ประจำเดือนผิดปกติ

  • ตั้งท้องยาก

  • มีขนบนใบหน้า

  • มือเท้าเย็น

  • หัวล้านเหมือนผู้ชาย

  • ผิวหยาบกร้าน

  • น้ำหนักเพิ่ม

  • ซึมเซาหรือวิตกกังวล

ดังนั้น การที่คิดว่าอยากให้มีฮอร์โมนเพศชายหรือเทสโทสเตอโรนเยอะ ๆ ในความเป็นจริงแล้ว มันไม่ได้ส่งผลดีอย่างที่เข้าใจกันนะครับ หากคุณจำเป็นต้องฉีดเทสโทสเตอโรนเพื่อรักษาอาการผิดปกติบางอย่าง ขอให้อยู่ในการวินิจฉัยและดูแลของแพทย์ อย่าได้ไปฉีดเองเป็นอันขาดเชียว


อย่างไรก็ดี เรามีเทคนิคการเพิ่มเทสโทสเตอโรนแบบธรรมชาติที่จะคืนฮอร์โมนเพศชายของคุณให้อยู่ในระดับที่สมดุลต่อร่างกายมาฝากกันครับ


เพิ่มฮอร์โมนเพศชาย: 7 วิธีที่ทำได้ทันที


1. ออกกำลังกาย ยกน้ำหนัก และลดน้ำหนัก

การออกกำลังกายดีกับเราเสมอรวมถึงการช่วยเพิ่มระดับเทสโทสเตอโรนด้วย การยกน้ำหนัก หรือการออกกำลังแบบต้านการออกแรงทุกชนิดจะส่งผลดีเป็นพิเศษ (resistance band, วิดพื้น, sit up, squat)


สำหรับการออกกำลังแบบ HIIT ไม่ควรเล่นจนหนักเกินไป เพราะอาจไปลดระดับฮอร์โมนเพศชายลงได้


2. เลือกทานโปรตีน ไขมัน และ คาร์ปอย่างสมดุล

สามสิ่งนี้ช่วยเพิ่มระดับเทสโทสเตอโรนได้อย่างเป็นธรรมชาติ แต่ต้องรักษาสมดุลด้วย ไม่มีอะไรที่มากเกินไปแล้วดี โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ไขมัน


ไขมันที่มากเกินไปเป็นศัตรูตัวร้ายของฮอร์โมนเพศชาย เนื่องจากไขมันสามารถเปลี่ยนเทสโทสเตอโรน (ฮอร์โมนเพศชาย) เป็นเอสโตรเจน (ฮอร์โมนเพศหญิง) ได้ - นั่นแปลว่า หากเรากินไขมันมากเกินขนาด เราจะเสียสิ่งที่อยากรักษาไว้ไป และได้สิ่งที่ไม่ต้องการมาแทน


3. ลดความเครียด

คอร์ติซอล (Cortisol) หรือ “ฮอร์โมนแห่งความเครียด” เป็นอีกหนึ่งศัตรูตัวร้ายของฮอร์โมนเพศชาย เนื่องจากเสือสองตัวอยู่ถ้ำเดียวกันไม่ได้ หากระดับฮอร์โมนเพศชายสูงขึ้น ระดับฮอรโมนคอร์ติซอลจะลดลง ในทางตรงกันข้าม หากระดับฮอรโมนคอร์ติซอลสูงขึ้น ระดับฮอร์โมนเพศชายจะลดลง เช่นกัน


ตามฉายาที่มันได้มาเลย, คอร์ติซอล หรือ ฮอร์โมนแห่งความเครียด มันถูกผลิตออกมาเมื่อเราเครียด ทั้งรู้ตัวและไม่รู้ตัว ดังนั้น หากจะกำจัดฮอร์โมนคอร์ติซอล ก็ต้องลดความเครียดลงครับ


4. ออกไปโดนแดดเพิ่มวิตามินดีบ้าง

วิตามินดี, rare item แห่งยุค, นอกจากจะได้เครดิตสารพัดเรื่องแล้ว ยังช่วยบูสระดับฮอร์โมนเพศชายด้วย และทุกวันนี้มีจำหน่ายในรูปแบบของอาหารเสริมแล้ว อย่างไรก็ดี จนกว่าจะมีคนมาสปอนเซอร์ เราอยากขอแนะนำให้คุณใช้วิธีเพิ่มวิตามินดีแบบธรรมชาติมากกว่า


นั่นก็คือ การออกไปโดนแดดครับ เราโชคดีที่เกิดมาอยู่ในประเทศที่มีแดดทุกวัน ออกไปโดดแดดบ้าง ผิวมันจะดำจะคล้ำขึ้นมาหน่อยก็ไม่เป็นไรหรอกครับ ดูสุขภาพดีเสียด้วยซ้ำ


5. พักให้พอและนอนให้มีคุณภาพ

การพักผ่อนให้พอสามารถช่วยเพิ่มฮอร์โมนเพศชายให้คุณได้ เพราะระหว่างที่คุณหลับ ร่างกายจะได้มีโอกาสพัก จัดระเบียบตัวเองใหม่ โดยเฉพาะอย่างยิ่งช่วงหลังเที่ยงคืน เป็นเวลาที่ฮอร์โมนเพศชายจะค่อย ๆ ถูกผลิตออกมา หากหลังเที่ยงคืนไปแล้วคุณยังไม่หลับ ร่างกายจะไม่มีโอกาสเข้าสู่กระบวนการการผลิตเทสโทสเตอโรนนี้


นอกจากนอนให้หลับก่อนเที่ยงคืนแล้ว คุณควรจะหลับให้ได้ 7-8 ชั่วโมงต่อคืนด้วย ฟังดูยากใช่ไหมครับ แต่จริง ๆ แล้วเราทุกคนทำได้ครับ


สำหรับใครที่มีนาฬิกาดิติจอลหรือ wrist band ที่สามารถตรวจจับคุณภาพการนอนได้ ลองใส่นอนและนำผลมาดูครับ ว่าที่หลับก่อนเที่ยงคืนและครบ 7 ชั่วโมงแล้วเนี่ย มีระยะเวลาที่เราหลับลึก (Deep Sleep) จริง ๆ นานแค่ไหน เป็นที่เข้าใจกันว่าคุณภาพในการนอนที่ดี ควรจะมีระยะเวลาที่เราหลับลึก อย่างน้อย 25% ของระยะเวลาที่หลับทั้งหมดครับ


การนอนเป็นอีกงานหนึ่งที่คนรุ่นใหม่, โดยเฉพาะคนเมือง, มีปัญหากันมากและควรจะได้รับการแก้ไข แต่บอกได้เลยครับว่า ถ้าสามารถจัดการการนอนให้ดีมีคุณภาพได้ จะสามารถช่วยแก้ปัญหาในชีวิตได้อีกหลายเรื่องเลย


6. ลดเหล้า บุหรี่ สารเสพติด

เป็นที่ทราบกันดีในวงการการแพทย์และผู้ดูแลสุขภาพ ว่าเหล้า ยา ปลาปิ้ง (ปลาปิ้งน่าจะดีกับสุขภาพ) เป็นสิ่งที่ทำร้ายสุขภาพเป็นอย่างมาก และมันก็มีฤทธิ์ทำลายฮอร์โมนเพศชายของเราด้วยเช่นกัน สารเสพติดนี่ไม่ต้องพูดถึง ถ้ามันหลอนประสาท เล่นกับระบบการรับรู้เราได้ขนาดนั้น เทสโทสเตอโรนมีหรือจะรอด จากขุนเขาก็หดเป็นหนอนน้อยได้เหมือนกัน


7. เลี่ยงสิ่งที่จะเพิ่มระดับเอสโตรเจน

ในร่างกายของผู้ชายก็มีฮอร์โมนเพศหญิง หรือ เอสโตรเจน (Estrogen) ด้วยเช่นกัน และโดยปกติมันจะอยู่ในระดับที่พอเหมาะที่ร่างกายจะดำเนินกิจกรรมไปได้ แต่การที่มีฮอร์โมนเพศหญิงมากเกินไปก็จะส่งผลให้เรามีอาการเหมือนฮอร์โมนเพศชายลดลงได้ด้วย เช่น

  • อวัยวะเพศไม่แข็งตัว

  • มีลูกยาก

  • ซึมเซา อารมณ์แปรปรวน

  • มีเต้านมเหมือนผู้หญิง

ดังนั้น เราจึงควรเลี่ยงสิ่งที่จะไปเพิ่มฮอร์โมนเพศหญิงโดยไม่จำเป็นกันดีกว่า เช่น

  • เลี่ยงของหวาน ของมัน, ของหวานและไขมันเปลี่ยนเป็นเอสโตรเจนง่ายมาก ท่องเอาไว้เลย

  • ผลิตภัณฑ์จากถั่วเหลือง เช่น เต้าหู้ ซีอิ้ว (อันนี้ส่วนตัวผมไม่เชื่อเท่าไหร่ เพราะดูผู้ชายญี่ปุ่นสิ โคตรจะแมน)

  • ผลไม้แห้ง, ผลไม้ตระกูลเบอรี่, งา, กระเทียม

  • ผลิตภัณฑ์ที่ออกแบบมาสำหรับผู้หญิงโดยเฉพาะ เช่น โลชั่น, ครีมทามือ, สบู่, ยาสระผม, น้ำหอม, ฯลฯ ผลิตภัณฑ์เหล่านี้มีสารเร่งเอสโตรเจนที่ช่วยให้ผู้หญิงสวยขึ้น ถ้าผู้ชายอย่างเราไปใช้ ก็จะสวยขึ้นด้วยเช่นกัน

 

หวังว่าจะได้รับความเข้าใจกันมากขึ้นเกี่ยวกับฮอรโมนเพศชายหรือเทสโทสเตอโรนนี้ ไม่มีอะไรที่มากเกินไปหรือน้อยเกินไปแล้วจะส่งผลดี รักษาสมดุลให้เกิดขึ้นเป็นเรื่องที่ดีที่สุดครับ


สำหรับคนที่ยังไม่ได้คำตอบว่าแล้วจะเพิ่มความแมนให้ตัวเองได้อย่างไร ลองดูบทความ 3 วิธีง่าย ๆ เพิ่มความเป็นชายแบบ REAL MAN กันดูครับ รับรองว่าได้ผลดีมากกว่าการมานั่งกังวลเรื่องระดับฮอรโมนเพศชายแน่นอน 😉


Be a REAL MAN


#ฮอรโมนเพศชาย #เทสโทสเตอโรน #Testosterone #เพิ่มฮอร์โมนเพศชาย #ความรู้สึกทางเพศลดลง #อารมณ์แปรปรวน


อ้างอิง


โพสต์ล่าสุด

ดูทั้งหมด
bottom of page