หมดรักแล้ว จะบอกเลิกยังไง? หรือจะหนีหายไปเลยดี?
ในความสัมพันธ์ที่ความรักจบลงไม่ใช่เรื่องปกติและไม่มีใครอยากให้เกิดขึ้น แต่ในเมื่อมันเกิดขึ้นแล้ว คุณพร้อมสำหรับบทถัดไปในชีวิตแล้ว จะบอกกับคนรักของคุณอย่างไรโดยไม่ทำให้อีกฝ่ายหนึ่งเกิดเป็นบาดแผลในใจขึ้นมา และพร้อมก้าวไปสู่บทใหม่ในชีวิตของเธอเช่นกัน
หรือจะหนีหายไปเฉย ๆ ก็ดูง่ายดีกว่าต้องมาบอกเลิกกันให้มีดราม่าเลอะเทอะตามมา?
ช้าก่อน! นั่นไม่ใช่วิถีที่คนแมน ๆ เขาทำกัน! ลองดูคำแนะนำข้างล่างนี้ ซึ่งจะพาคุณข้ามผ่านหนึ่งในการสนทนาที่ยากที่สุดที่ชายคนหนึ่งพึงจะเจอ
1) เลือกสถานที่ที่เป็นส่วนตัว สบาย ๆ
คำนึงไว้ว่า คุณเป็นคนที่จะบอกเลิก คุณรู้ว่ากำลังจะเกิดอะไรขึ้น แต่เธอยังไม่รู้ ดังนั้น ทำให้เธอสะดวกใจด้วยการเลือกสถานที่ที่เป็นส่วนตัว ไม่ใช่นัดไปร้านอาหาร หรือคาเฟ่ที่มีคนพลุกพล่าน เพื่อจะบอกเลิกกับเธอ หาที่ที่ไม่มีใครมารบกวน ที่ที่เธอร้องไห้หรือระบายออกมาได้ตามสบาย
อย่าคิดแม้แต่จะบอกเลิกทางโทรศัพท์ หรือแชท แมน ๆ หน่อย คุยกันต่อหน้านี่แหละ
2) อธิบายว่า มีบางอย่างได้เปลี่ยนไปแล้ว
แทนที่จะใช้ประโยคที่หยาบกระด้างบาดใจ เช่น "ผมมีคนอื่นแล้ว" หรือ "ผมไม่รักคุณแล้ว" อธิบายกับเธอแบบคนมีหัวจิตหัวใจหน่อย ว่าความรู้สึกของคุณได้เปลี่ยนไปแล้ว เช่น
"อ้อย คุณรู้ว่าผมให้คุณค่ากับคุณแค่ไหน แต่ผมอยากแสดงความซื่อสัตย์กับคุณ ผมรู้สึกว่าตัวเองไม่ใช่คนเดิมตอนที่เราเริ่มคบกัน และผมไม่สามารถให้คุณในสิ่งที่คุณควรจะได้รับได้อีกต่อไป"
อะไรที่เคยเวิร์คระหว่างคู่ของคุณ มันไม่เวิร์คอีกต่อไป นั่นหมายความว่า คุณไม่ใช่คนเดิมที่เธอเคยต้องการอีกต่อไป คนฟังอาจจะทำใจได้ยาก แต่นี่เป็นวิธีที่ดีที่สุดแล้ว ที่ทำให้ทั้งคู่ก้าวต่อไปได้
3) หักห้ามใจ! อย่าได้ทบทวนอดีต
คู่ของคุณอาจจะอยากรู้ว่า ทำไมคุณถึงไม่รักเธออีกต่อไป หรืออะไรที่เปลี่ยนไปกันแน่ ในขณะที่คุณรู้สึกว่าคุณควรจะตอบคำถามพวกนี้เพื่อช่วยบรรเทาความเจ็บปวดของเธอลง แต่ในความเป็นจริงแล้ว มันไม่เคยช่วยให้ดีขึ้นเลย คุณไม่จำเป็นต้องทบทวนสิ่งที่เกิดขึ้น หรือวิเคราะห์ให้เธอฟังว่า ความสัมพันธ์ของเรามันเหี่ยวเฉาลงได้อย่างไร
อะไรก็ตามที่คุณพูดออกมา มันจะทำให้เกิดการกล่าวหา มีฝ่ายถูกกระทำ มีฝ่ายผู้กระทำขึ้นมา โยนความผิดกันไปมา และการสนทนาจะแย่ลงไปเรื่อย ๆ
(ในความเป็นจริงแล้ว คู่รักควรเช็คว่าความสัมพันธ์ของคู่ยังดีอยู่ไหมแทบจะทุกวัน ไม่ใช่ปล่อยจนอีกฝ่ายหนึ่งเปลี่ยนไป แล้วค่อยมาถามกันมาวิเคราะห์กันตอนที่มันจะจบแล้ว ซึ่งไม่ได้ช่วยอะไร)
4) ใช้คำและประโยคที่กลาง ๆ ไม่เจาะจงว่าใครเป็นคนผิด
อย่ากล่าวหา อย่าโทษว่าใครเป็นต้นเหตุที่ทำให้ความสัมพันธ์มันแย่ลง ไม่ว่าจะโทษไปที่เธอหรือลงมาที่ตัวคุณเอง ในทางตรงกันข้าม พูดให้เคลียร์ไปเลยว่า มันไม่ใช่เรื่องที่เราทั้งคู่สามารถแก้ไขอะไรได้อีกต่อไป
การพูดลักษณะนี้ จะพาการสนทนาและชีวิตของทั้งคู่ไปต่อ ไม่จมปลักและชวนให้คิดวกวนอยู่กับอดีต
"ผมรู้สึกว่าเรื่องระหว่างเรามันไม่ลงตัวมาซักพักนึงแล้ว ซึ่งไม่มีใครอยากให้มันเกิด"
ในตอนต้น เธออาจจะอยากชี้นิ้วโยนความผิดมาที่คุณ (เพราะเธอเป็นฝ่ายที่เจ็บปวดอยู่) แต่คุณต้องไม่ต่อล้อต่อเถียง และยืนกรานไปว่าการหาตัวคนผิด สถานการณ์ ณ จุดนี้ มันไม่ได้ช่วยให้อะไรดีขึ้น
5) อย่าให้ความหวัง
อย่าบอกเธอว่า วันนึงเราอาจจะกลับมาเจอกันอีก เพียงเพื่อทำให้เธอรู้สึกดีขึ้น คุณรู้อยู่แล้วว่ามันไม่มีทางเกิดขึ้น (ก็ถ้าคุณจะกลับมาคบกันอีก แล้ววันนี้จะเลิกคบกันทำไม!?) ข้อเสนอแบบนี้จะทำให้ไม่สามารถเลิกกันเด็ดขาดได้ และหากมันเกิดขึ้นจริง อนาคตของคุณกับทั้งคนใหม่และคนนี้จะแย่ลงไปอีก
เธอเองก็จะรออย่างมีความหวัง ไม่สามารถใช้ชีวิตต่อไปได้ ณ ขั้นตอนนี้ อาจเป็นเวลาที่ยากลำบาก แต่วันนึงเธอจะเรียนรู้และผ่านมันไปได้ คุณต้องไม่ทำให้งานของเธอยากขึ้นไปอีก
6) ดูแลความรู้สึกตัวเอง - มีสติหน่อย!
เพราะนี่เป็นบทสนทนาที่อ่อนไหว และเต็มไปด้วยอารมณ์ หากคุย ๆ ไปแล้วคุณเกิดเซนซิทีฟขึ้นมา เกิดรู้สึกสูญเสีย และเจ็บปวดขึ้นมาด้วยเช่นกัน เรื่องมันจะไปกันใหญ่ และจะจบไม่ลง
ตั้งสติให้ดีอยู่เสมอ มันมีการสนทนานี้เกิดขึ้น เพราะคุณต้องการจบความสัมพันธ์นี้อย่างดี ๆ อย่าให้ความวอกแวกวกวนในใจมาทำให้เรื่องนี้เสียไปได้ เลิกก็คือเลิก ไม่ต้องรู้สึกเจ็บปวดหรือเสียดาย ถ้าคุณเองยังทำไม่ได้ เธอก็ทำไม่ได้ด้วยเช่นกัน
7) อย่าบอกว่าเราจะยังเป็นเพื่อนกัน
แรกเลย มุขนี้มันไม่เคยเวิร์คอยู่แล้ว! และการเป็นเพื่อนกัน ไม่ใช่รางวัลปลอบใจของคนถูกทิ้ง ดังนั้น อย่าได้ยื่นข้อเสนอที่ทำให้เรื่องมันยุ่งไปกว่าที่เป็นอยู่
แล้วถ้าเธอเป็นฝ่ายถามเองล่ะ ว่าเราจะยังเป็นเพื่อนกันไหม? ให้บอกเธอว่า คิดดูดี ๆ นะ ในช่วงเวลานี้น่าจะเป็นช่วงเวลาที่เธอต้องการพื้นที่และเวลาในการที่จะก้าวข้ามเรื่องนี้ไปมากกว่าไม่ใช่หรือ นั่นคือสิ่งที่ดีที่สุดที่คุณจะให้เธอได้
หวังว่าด้วยวิธีเหล่านี้ จะช่วยให้คุณสามารถบอกเลิกคนรักหรือแฟนเก่าได้แบบไม่มีดราม่า และสามารถก้าวต่อไปข้างหน้า พร้อมกับบทใหม่ในชีวิตกันได้ทั้งคู่ครับ
Be a REAL MAN