มันเป็นเรื่องง่ายที่จะใช้ชีวิตร่วมกับคนที่เห็นเหมือนกันกับคุณไปซะทุกเรื่อง แต่นั่นไม่ช่วยให้คุณเข้าใกล้คำว่า เปิดใจ หรือที่เรียกว่า Open Mind มากขึ้นเลย
คุณค่า หรือ ความเชื่อของมนุษย์คนหนึ่ง เป็นเหมือนเข็มทิศจากภายในที่คอยบอกว่าเขาคนนั้นจะเลือกทำอะไร คอยช่วยบอกว่าอะไรผิดหรือถูก โดยเฉพาะอย่างยิ่ง เวลาที่ไม่มีกฏเกณฑ์มาคอยบอกอย่างชัดเจน หากปราศจาก "คุณค่า"หรือ"ความเชื่อ" ที่กล่าวถึงนี้แล้ว เราทุกคนคงจะหลงทาง ไม่มีวัฒนธรรม ไม่มีเจนเนอเรชั่น ไม่มีความแตกต่างระหว่างบุคคล ชีวิตคงจะน่าเบื่อ คาดเดาได้ และมนุษย์คงจะสูญพันธุ์ไปอย่างรวดเร็ว
ปัญหาส่วนมากที่เราต้องแก้ไขทั้งที่ทำงานและในชีวิตโดยทั่วไป มาจากความที่มุนษย์เราให้คุณค่าในเรื่องที่แตกต่างกัน และมีคนไม่น้อยเลือกที่จะมองคนอื่น ๆ ที่ให้คุณค่าในสิ่งที่ไม่เหมือนกับเรา เป็นผู้ที่อยู่ฝั่งตรงข้ามกับเรา เป็นศัตรู ในกรณีที่สาหัสกว่านั้น สรุปให้ไอ้คนนั้นเป็นคนเลวไปเลย ก็มีให้เห็นกันบ่อย
เราชอบคนที่เห็นตรงกับเรา หรือให้คุณค่าในสิ่งเดียวกับเรา เนื่องจากมันพิสูจน์ให้เห็นว่า "เราถูก" "เราได้รับการยอมรับ" ซึ่งไม่ใช่เรื่องดีที่เราจะเสพติดความรู้สึกแบบนี้ เนื่องจากมันทำให้จิตใจอ่อนแอลง เพราะต้องแสวงหาการยอมรับจากผู้อื่นอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้ตัวเองสามารถดำรงชีวิตต่อไปได้อย่างมั่นใจ และ/หรือ ส่งเสริมให้มีอาการหลงตัวเองมากขึ้นเรื่อย ๆ มันยังอธิบายอีกด้วยว่า ทำไมบ่อยครั้งที่หัวหน้ามักจ้างหรือโปรโมทคนที่เหมือนกับตัวเอง ทำไมยิ่งอยู่ด้วยกันนานคู่รัก, แฟน, หรือเพื่อนสนิท ถึงดูเหมือนกันมากขึ้นเรื่อย ๆ
แต่ถ้าคุณอยากจะใช้ชีวิตต่อไปในโลกที่หมุนเร็วขึ้นเรื่อย ๆ จนความแตกต่างและวิธีคิดหลากหลายจากทั่วโลก ทั่วสารทิศกำลังหมุนเข้ามาใกล้คุณมากขึ้นเรื่อย ๆ เกราะชุดเดิมที่เคยป้องกันคุณเอาไว้จากความแตกต่างทางความเชื่อกำลังพังทลายลง คุณอาจจะอยากรู้ว่า แล้วจะอยู่กับคนที่เห็นไม่ตรงกับคุณได้อย่างไร
มันเป็นเรื่องง่ายที่จะใช้ชีวิตร่วมกับคนที่เห็นเหมือนกันกับคุณไปซะทุกเรื่อง แต่นั่นไม่ช่วยให้คุณเข้าใกล้คำว่า เปิดใจ หรือที่เรียกว่า Open Mind มากขึ้นเลย และมันอาจจะส่งสัญญาณบอกด้วยว่าบางทีคุณค่าที่คุณให้ความเชื่อถืออยู่ อาจจะไม่ถูก ไม่เหมาะ ไม่ทันสมัย ไม่ยืดหยุ่นพอก็เป็นได้ คุณจึงไม่พร้อมที่จะใช้ชีวิตร่วมกับคนที่ให้คุณค่ากับสิ่งที่ต่างไปจากคุณ เพราะคุณไม่อยากให้คุณค่าหรือความเชื่อของคุณถูกท้าทายจากคนที่เห็นแตกต่าง หรือลึก ๆ แล้วอาจจะคุณรู้ตัวว่าเปราะบางเกินกว่าที่จะรับวิธีคิดที่แตกต่างออกไปเข้ามาในจิตสำนึกของคุณอีกซักชุดหนึ่ง ก็เป็นได้
ไม่ว่ามันจะเป็นอะไรก็ตาม หากคุณยังทนอ่านต่อไปได้ คุณจะได้พบกับ 4 วิธีฉลาด ๆ ที่จะช่วยให้คุณอยู่ร่วมกับคนที่เห็นไม่ตรงกับคุณได้
1) เลือกที่จะเรียนรู้
ถ้าคุณถอยออกมาซักก้าวนึงหรือสอง คุณจะพบว่า คุณมีทางเลือกระหว่างเรียนรู้สิ่งใหม่กับการโต้เถียงเสมอ การเรียนรู้เป็นการออกกำลังให้กับสมอง สมองคุณจะต้องออกแรง: มันจะต้องผลักความเชื่อดั้งเดิมออกไปข้าง ๆ ก่อน แล้ววางสิ่งที่ได้ฟังมาใหม่ลงไป จากนั้นประมวลผล ไม่ว่าสุดท้ายความเชื่อดั้ังเดิมกับที่สิ่งที่เข้ามาใหม่ในสมองจะสามารถรวมเข้ากันได้หรือแยกกันอยู่ สมองของคุณได้ออกแรงแล้ว รอยหยักในสมองได้เพิ่มขึ้นแล้ว ความรู้ชุดใหม่ได้เกิดขึ้นแล้ว กระบวนการนี้จะทำให้สมองคุณแข็งแรง แก่ช้าลง ไม่เลอะเทอะยามแก่เฒ่าง่าย ๆ
2) ตระหนักเอาไว้เสมอว่า การเข้าใจ ไม่ใช่ การเห็นด้วย
มันเป็นเรื่องปกติมาก ที่คุณจะฟัง เรียนรู้สิ่งใหม่ และยังคงเชื่อในสิ่งที่คุณเชื่อถือมาตลอด มันไม่ใช่ ขาว-ดำ ศูนย์-หนึ่ง แพ้-ชนะ หลังจากที่สมองคุณได้ประมวลผลแล้ว คุณจะเข้าใจมากขึ้นว่าทำไมอีกฝ่ายหนึ่งถึงเชื่อในสิ่งที่เขาเชื่อ แต่ไม่ได้แปลว่าคุณต้องเห็นด้วย ทุกคนมีเหตุผลของตัวเอง ทุกคนมีการเดินทางที่แตกต่างกันกว่าที่จะมาเจอกัน หากคุณเข้าใจเขา เหมือนอย่างที่คุณอยากให้เขาเข้าใจคุณ เราก็จะอยู่ร่วมกันได้ดีขึ้น
3) อยากรู้อยากเข้าใจ รับรู้อารมณ์ และอดทน
การที่เราตั้งใจตั้งแต่ต้น ว่าเราอยากรู้อยากเข้าใจอีกฝ่ายหนึ่ง จะทำให้ใจของเราเปิดกว้างออกพร้อมที่จะรับฟัง และอยากเข้าใจวิธีคิดของเขา บางครั้งเราอาจจะเกิดอารมณ์ขึ้นมาเพราะบางอย่างในการสนทนามันไปกระทบกับอีโก้ของเราเข้าให้ ขอให้ลืมมันไปก่อน
ใช้ความอดทน อย่าเพิ่งพลีพลามตัดบทขณะที่เขาพูดอยู่ ปล่อยเขาพูดต่อไป และค่อยหาจังหวะแสดงความเห็นของคุณ คุณได้แสดงความเห็นของคุณแน่นอน ไม่ต้องรีบร้อน จำเอาไว้ว่านี่ไม่ใช่เรื่องแพ้-ชนะ มันเป็นเรื่องของการอยู่ร่วมกัน
4) อย่าหูดับหรือเดินหนี แสดงความเคารพต่อกันหน่อย
ไม่ว่าคุณจะเป็นผู้พูดหรือแค่ผู้ร่วมวง แม้สถานการณ์มันเริ่มดุเดือดขึ้น เสียงเริ่มดังขึ้น อย่าเดินหนีออกไป ตั้งใจฟัง เรียนรู้ ผู้พูดต่างกำลังแสดงทัศนคติต่อคุณค่าที่เขาเชื่อถือ คุณควรให้ความเคารพกับสิ่งนั้น
ความต้องการโอกาสที่จะได้อธิบายคุณค่าที่ตนเชื่อถือ เป็นสิ่งที่มนุษย์ทุกคนต้องการ คุณเองก็เช่นกัน
การสนทนาเรื่องคุณค่าหรือความเชื่อส่วนบุคคลเป็นเรื่องละเอียดอ่อนและเคยเป็นเรื่องต้องห้ามในอดีต แต่แทบจะเลี่ยงไม่ได้แล้วในโลกที่ความเป็นปัจเจกได้รับการเอื้ออำนวยถึงจุดสูงสุดอย่างเช่นทุกวันนี้ การยอมรับความคิด คุณค่า ความเชื่อที่แตกต่างเข้ามา จะทำให้เราอยู่รอดและพัฒนาต่อไปได้ สุดท้ายแล้ว คุณจะพบว่ามีแต่เรื่องดี ๆ เกิดขึ้นกับตัวคุณ เมื่อคุณสามารถใช้ชีวิตร่วมกับคนที่คิดเห็นต่างจากคุณได้
Be a REAL MAN
Comments